ทุกวันนี้เมื่อเราก้าวเท้าออกจากบ้าน สิ่งที่เพื่อน ๆ หลายคนต้องพบเจอก็คือโฆษณา ‘Out of Home’ ไม่ว่าจะเป็นป้ายบิลบอร์ด, โฆษณาดิจิทัลในห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่บนรถไฟฟ้า MRT ยิ่งเป็นคนที่ใช้เส้นทางเดิมทุกวัน ก็อาจจะจำโฆษณาเหล่านั้นได้แบบไม่รู้ตัว
และนี่คือคำเตือนจาก ‘BMN’ หรือ บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด ผู้ดูแลพื้นที่โฆษณา พื้นที่ร้านค้า และบริการภายในสถานีรถไฟฟ้า MRT ที่อยากบอกทุกแบรนด์เอาไว้ก่อนเลยว่าอย่าใช้สื่อ Out Of Home ถ้าไม่อยากให้ใครรู้จักแบรนด์ของคุณ !!
ฟังไม่ผิด เพราะสื่อโฆษณา Out Of Home ในปัจจุบันนี้ สามารถสร้างอิมแพคได้มากกว่าการรับรู้ และเป็นหนึ่งในเครื่องมือการสื่อสารที่มีผลต่อการสร้างแบรนด์และการตัดสินใจของผู้บริโภคในระยะยาว
ใครอยากรู้ว่าพลังของการเข้าถึงผู้บริโภคนั้นจะเข้ามาช่วยเสริมกลยุทธ์การสื่อสารให้มีประสิทธิภาพขึ้นได้มากแค่ไหน แล้วทำไมสื่อ BMN ถึงไม่เหมาะกับแบรนด์ลับ ตามไปอ่านเหตุผลทั้งหมดกันได้เลย !
1. เพราะมีโอกาสโดนเห็น ในทุกช่วงการเดินทาง ทั้ง MRT และทางด่วน ตอบโจทย์พฤติกรรมคนเมือง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าแม้โฆษณา Out of Home จะมีมากมายหลายประเภท แต่สื่อที่ใกล้ชิดกับเหล่าชาวกรุงที่สุดก็คงหนีไม่พ้นโฆษณาตามท้องถนนและสถานีรถไฟฟ้า ที่เป็นเหมือนจุด Check Point ของคนทำงานในเมืองที่ต้องเดินทางไปมาทุกวัน
ซึ่ง BMN ก็มีสื่อโฆษณาที่ตอบโจทย์หลากหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นบนทางด่วนหรือระบบรถไฟฟ้า MRT ทั่วเมือง จนแบรนด์ลับต้องถึงคราวอวสาน เพราะไม่ว่าจะอยู่จุดไหนก็มีโอกาสโดนคนมองเห็นแน่นอน !
ด้วยความเป็นสื่อโฆษณาที่อยู่ในช่วงเวลาการเดินทางของผู้คน การมองเห็นซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ ในทุก ๆ วันเลยกลายเป็นจุดแข็งของสื่อ BMN ที่จะช่วยบูสต์ประสิทธิภาพให้โฆษณาเป็นที่จดจำ และทำให้คนอยากรู้จักแบรนด์มากขึ้นไปอีก
2. เพราะมีประสิทธิภาพในการสร้างแบรนด์ มีผลต่อการตัดสินใจในระยะยาวสูงกว่าค่าเฉลี่ย
แบรนด์ ธุรกิจ หรือนักการตลาดหลายคนอาจกังวลว่า แล้วถ้าเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภคจดจ่ออยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือ จะทำให้การรับรู้ต่อโฆษณาลดลง แต่สื่อ Out of Home ของ BMN นั้นทำงานได้ ‘ตลอดเวลา’ เพราะถูกออกแบบมุมมองมาอย่างดี เงยหน้าเมื่อไหร่ก็เห็นเมื่อนั้น !
ไม่ว่าจะเป็นภาพ Artworks ที่สวยงาม, ถ้อยคำเชิญชวนที่กระตุ้นความสนใจ และจุดที่ติดตั้งสื่อโฆษณาที่เหมาะสม ตั้งแต่ต่ทางเข้าสถานี ชั้นขายตั๋ว ชั้นชานชาลา ไปจนถึงในขบวนรถไฟฟ้า ผ่านสื่อที่หลากหลาย เช่น Digital Media, Static Media, และ Train Media ผสมผสานกลายเป็น ‘Media Networks’ ที่ประสานการรับรู้ของกลุ่มเป้าหมายให้เป็นหนึ่งเดียว
นอกจากนี้ รายงานจาก Nielsen’s Annual Marketing Report 2024 ยังชี้ให้เห็นว่า “สื่อโฆษณา OOH เป็น 1 ในช่องทางการสื่อสารที่มีความสามารถในการส่งเสริมการรับรู้แบรนด์และยอดขาย ซึ่งมี ROI multiplier อยู่ที่ 1.5 หมายความว่าสื่อนี้มีผลกระทบระยะยาวต่อการสร้างแบรนด์และการจูงใจ ให้เกิดการซื้อ และคิดเป็น 46% ของกรณีศึกษา” จึงสามารถขับเคลื่อนยอดขายและการสร้างภาพจำที่แข็งแรงให้แบรนด์ได้จริงนั่นเอง
3. เพราะเชื่อมโยงได้ทั้ง ออฟไลน์-ออนไลน์ วางกลยุทธ์การสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากสื่อ Out of Home จะเป็นหนึ่งในไม้เด็ดเคล็ดไม่ลับที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงคนเป็นวงกว้างได้แล้ว ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยต่อยอดการสื่อสารอันทรงพลังระหว่างช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ได้อีกด้วย
เพราะไม่ใช่แค่สร้างการรับรู้ แต่ยังช่วยเชื่อมต่อกับผู้บริโภคในระยะยาว ด้วยการต่อยอดสื่อ Out of Home มาเป็น ‘พื้นที่’ ให้คนเข้ามามีส่วนร่วมได้ เช่น บูทโชว์สินค้า ชวนทดลองใช้ หรือทำกิจกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าประทับใจ
เมื่อมีพื้นที่เชื่อมต่อกลยุทธ์การสื่อสารครบทั้งออฟไลน์และออนไลน์แบบนี้ แบรนด์ก็จะยิ่งถูกจ้องมองมากขึ้น มีคนอยากรู้จักมากขึ้น และมีคนกลายมาเป็นลูกค้าเพิ่มขึ้น จนไม่สามารถเป็นแบรนด์ลับ ๆ ได้อีกต่อไป !
วิเคราะห์สั้น ๆ ในมุมมอง AD ADDICT
แอดมองว่าสื่อโฆษณานอกบ้านเป็นสื่อที่มีมาตั้งแต่ยุคดั้งเดิม และยังคงมีอิทธิพลกับผู้บริโภคมาจนถึงปัจจุบัน แต่การเสริมด้วยจุดแข็งของ BMN ทั้งเรื่องทำเล การออกแบบ และกลยุทธ์การสื่อสาร ก็ทำให้โฆษณา Out of Home สามารถเสริมอิมแพคทางการตลาดยุคใหม่ได้มากขึ้น
ในมุมของการเป็นสื่อ Out of Home ที่อยู่ในทุกการเดินทางของคนเมือง ก็ตอบโจทย์แบรนด์ที่ต้องการสร้างผลลัพธ์ที่มากกว่าการรับรู้ แต่เป็นการเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของคน จนกลายเป็นภาพจำและการจูงใจในระยะยาวอีกด้วยคร้าบ
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : adaddictth.com