บอกเลยว่าบิลบอร์ดยาใจพี่สาวพี่ชายชิ้นนี้ คือหนึ่งในแคมเปญเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์แก๊งใหม่ของ Kaniva ที่ขอจับมือไอดอลแห่งยุคอย่าง BUS because of you i shine ไฮไลต์คือการจับคู่หนุ่ม ๆ ทั้ง 12 คน กับน้องหมาน้องแมว 12 สายพันธุ์ที่สะท้อนคาแรกเตอร์ตัวเอง ภายใต้คอนเซปต์ ‘การเจอใครที่เหมือนเรา คือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต’ ใครที่เคยเจอป้ายบิลบอร์ด ก็ระวังแยกกันไม่ออกนะคร้าบ ว่าอันไหนคน อันไหนเจ้าสี่ขากันแน่ เพราะดูน่ารักเหมือนกันอย่างกับแฝดจริง ๆ
เท่านั้นยังไม่พอ นอกจากปล่อยบิลบอร์ดสุดน่ารักทั้ง 12 คน มาเติมพลังให้คนเมืองกันทั่วกรุงเทพฯ ถึง 11 แห่งแล้ว ทางแบรนด์ยังต่อยอดเล่นใหญ่ด้วยการจัดอีเวนต์ออฟไลน์เอาใจคนรักสัตว์อย่าง ‘Kaniva Petstival’ ในวันที่ 10-11 ก.ค. 2025 ณ ลานพาร์คพารากอน ให้ผู้โชคดีทั้ง 112 ท่านได้กระทบไหล่หนุ่ม ๆ BUS และคุณเจษ เจษฎ์พิพัฒ Friend of Kaniva แบบใกล้ชิดสุด ๆ
ใครที่อยากรู้ว่า Kaniva เค้าใช้กลยุทธ์อะไรในการเลือกพรีเซ็นเตอร์ได้โดนใจ แถมยังสื่อสารได้อย่างน่าสนใจแบบนี้ ก็ตามไปอ่านบทวิเคราะห์ของแอดกันได้เลย~
1. ตั้งต้นไอเดียจาก Insight เพราะสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่เหมือนเจ้าของ !
คำเรียกที่ว่า ‘ทาสหมา ทาสแมว’ บอกเลยไม่เกินจริงสักนิด เพราะเดี๋ยวนี้เทรนด์การเลี้ยงสัตว์กำลังเข้าสู่ยุค Pet Humanization หรือการรักและเอ็นดูพวกเขาเสมือนคนในครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่โตมากับแนวคิดนี้
ดังนั้นน้องหมาน้องแมว จึงไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง แต่เพื่อนที่ช่วยฮีลใจที่รู้ใจเรามากที่สุด จนบางครั้งก็กลายเป็นเราในอีกเวอร์ชันนึงเลยก็ว่าได้ จึงไม่แปลกที่หลายคนจะบอกว่า ‘สัตว์เลี้ยงก็เหมือนเจ้าของ’
จากอินไซต์ที่น่าสนใจนี้ จึงนำมาสู่สารตั้งต้นของไอเดีย ‘การเจอใครที่เหมือนเรา คือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต’ ที่เล่นกับความผูกพันของเหล่าคนรักสัตว์ได้เป็นอย่างดี
2. เปิดตัว 12 พรีเซ็นเตอร์ BUS จับคู่คาแรกเตอร์กับสายพันธุ์สุนัขและแมว
หลังจากได้คอนเซปต์ของแคมเปญแล้ว สิ่งสำคัญที่จะมาต่อยอดแนวคิดให้กลายเป็นภาพจริง และประสบความสำเร็จได้นั้น ก็คือพรีเซ็นเตอร์ที่ต้องสะท้อนภาพลักษณ์ของ Kaniva ออกมาได้อย่างชัดเจน
โดยหนุ่ม ๆ BUS because of you i shine ถือเป็นตัวแทนของเหล่า Gen Z ผู้รักสัตว์ที่มีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง เรียกได้ว่า 12 คน 12 แบบ แถมแฟนคลับยังชอบเปรียบเทียบพวกเขากับสัตว์สี่ขาอยู่บ่อยครั้ง นี่จึงถือเป็นโอกาสดีที่จะพาพวกเขามาขึ้นป้ายคู่กับหมาแมวที่เหมือนกับตัวเอง
ไฮไลต์ที่โดนใจแฟนคลับเป็นอย่างมาก ก็คือการจับคู่หนุ่ม ๆ กับสัตว์ทั้ง 12 ตัวที่เหมือนกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นไทยกับคอร์กี้, คอปเปอร์กับแมวส้ม หรือภีมวสุกับโกลเด้น เป็นต้น ซึ่งความสดใสของหนุ่ม ๆ ก็ส่งพลังงานมาถึงคนดูอย่างเราได้เป็นอย่างดี
3. สร้าง Engage กับผู้คนด้วยคำถาม แล้วค่อยเฉลยเล่นใหญ่ ให้เกิดอิมแพค
แทนที่จะปล่อยบิลบอร์ดออกมาโต้ง ๆ งานนี้ Kaniva เค้ามาลูกเล่นมากกว่านั้น ! เพราะช่วงแรกของแคมเปญ แบรนด์มีการปล่อย Teaser ป้ายบิลบอร์ดที่ปิดหน้าพรีเซนเตอร์เอาไว้ เป็นเหมือนเกมให้เราทายกันเล่น ๆ ว่า ใครจะมาอยู่บนป้ายนี้กันแน่ !
หลังจากได้กระแสบนโลกออนไลน์ไปอย่างเต็มที่แล้ว ก็ได้เวลาเฉลยพรีเซ็นเตอร์ตัวจริง โดยแบรนด์ทำการเอาจิ๊กซอว์ที่ปิดป้ายเหล่านั้นออก ให้เห็นถึงบิลบอร์ดสุดน่ารักที่ตั้งอยู่ 11 ป้ายทั่วกรุงเทพ และจอบริเวณสยามกว่า 60 จอ
ถือว่าเป็นการปล่อยบิลบอร์ดที่คนจับตามองมากที่สุดแคมเปญหนึ่งเลยก็ว่าได้ แถมแต่ละจุดยังกลายจุดเช็กอินให้แฟนคลับมาตามถ่ายรูปเก็บความน่ารักของเมนตัวเองได้อีกด้วย~
ซึ่งทั้งแคมเปญนี้มีการใช้สื่อ OOH มากกว่า 100 จุดทั่วกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็น BTS, MRT, LED และ Billboard เข้าถึงคนเมืองได้โดยตรง สร้างการจดจำแบรนด์ (Top-of-Mind) ได้เป็นอย่างดี
4. ต่อยอดสู่ “Kaniva Petstival” อีเวนต์เปิดตัว ท่ามกลางคนรักสัตว์เลี้ยง
นอกจากความน่ารักบนจอแล้ว ทาง Kaniva ยังต่อยอดสู่อิเวนต์ออฟไลน์ สร้างประสบการณ์ฟิน ๆ ให้กับคนรักสัตว์กับงาน Kaniva Petstival ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 10-11 ก.ค. 2025 ณ ลานพาร์คพารากอน
โดยงานนี้ถือเป็นการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ครั้งใหญ่ นำทีมโดย ‘คุณเจษ เจษฎ์พิพัฒ’ Friend of Kaniva และ หนุ่ม ๆ BUS ทั้ง 12 คน ซึ่งก่อนจะถึงวันงาน ทางแบรนด์จัดกิจกรรมพิเศษให้คนทางบ้านได้ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีทั้ง 112 คนที่มาร่วมงานในครั้งนี้อีกด้วย
ยังไงก็รอติดตามกันได้เลยคร้าบ แอดเชื่อว่าต้องเป็นงานออฟไลน์สุดยิ่งใหญ่ที่ได้ใจคนรักสัตว์ไปเต็ม ๆ แน่นอน คอนเฟิร์ม !
วิเคราะห์สั้น ๆ ในมุม AD ADDICT
ในมุมแอด Kaniva เข้าใจอินไซต์ของชาว Gen Z ที่เลี้ยงสัตว์ได้เป็นอย่างดี เพราะแบรนด์ไม่ได้แค่สื่อสารความน่ารักของหมาแมวและน้อง BUS เพียงอย่างเดียว แต่เลือกใช้คอนเซปต์ ‘ใครที่เหมือนเรา’ เข้ามาเชื่อมโยงตัวตนของผู้บริโภคเข้ากับสินค้า ซึ่งเป็นการสร้าง Brand Love ที่ทรงพลัง และเป็นจุดเริ่มต้นของ Emotional Bond ที่ยึดใจคนได้ในระยะยาว
การใช้ Teaser บนบิลบอร์ดและจอดิจิทัลทั่วเมืองในรูปแบบเกม “ทายซิ ! น้องตัวนี้เหมือนใครใน BUS” ไม่เพียงสร้างกระแสและ Brand Visibility เท่านั้น แต่ยังเปิดพื้นที่ให้คนมี Interact กับแบรนด์แบบสนุกและมีส่วนร่วม พร้อมเฉลยด้วยป้ายบิลบอร์ดทั่วกรุงฯ ชวนแฟนคลับให้ไปตามเก็บตามทำเลทองต่าง ๆ
แคมเปญไม่ได้หยุดแค่บนถนนหรือหน้าจอ แต่ดึงคนเข้าสู่กิจกรรมออฟไลน์จริง ผ่านงาน ‘Kaniva Petstival’ ที่ไม่ได้เป็นแค่ อีเวนต์โปรโมตสินค้า แต่เป็นพื้นที่ให้กลุ่มเป้าหมายได้ร่วมสนุกและใกล้ชิดกับแบรนด์ในฐานะ ‘คนรักสัตว์’ เหมือนกัน ถือเป็นการทำแคมเปญที่สวยงามครบจบจริง ๆ คร้าบ
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : adaddictth.com