Contact us on +668 4668 1993 or aspasign2020@gmail.com

รู้จัก Liberator แพลทฟอร์มปฏิวัติวงการหุ้นไทย กับการเปิดตัวใหญ่ด้วยสื่อ OOH ที่สร้างปรากฏการณ์ทั่วเมือง

รู้จัก Liberator แพลทฟอร์มปฏิวัติวงการหุ้นไทย กับการเปิดตัวใหญ่ด้วยสื่อ OOH ที่สร้างปรากฏการณ์ทั่วเมือง
March 3, 2023 dhammarong

Liberator คืออะไร? หลายคนอาจจะได้คำตอบแล้ว หลังผ่านตากับสื่อโฆษณาของ Liberator ที่ได้เห็นบนท้องถนนในกรุงเทพฯ ที่มีมากมายจนเรียกได้ว่าเป็น “ปรากฏการณ์” ทั้งบิลบอร์ดบนทางด่วน หน้าจอ LED ขนาดยักษ์ริมถนนเส้นหลัก Lightbox บนฟุตบาท เรื่อยไปจนถึงสื่อโฆษณาบนถนนสาธารณะ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จของกลยุทธ์ในการใช้สื่อ Out of Home (OOH) ของ Liberator ที่ยังได้ผลดีอย่างยิ่งในยุคนี้ในการสร้าง Awareness ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างได้

Liberator คืออะไร?

ก่อนจะไปดูกลยุทธ์การใช้สื่อ OOH ของ Liberator ย้อนกลับไปทำความรู้จักที่มาที่ไปของแพลทฟอร์มน้องใหม่นี้กันก่อน สำหรับ Liberator เป็นแพลทฟอร์มการลงทุน จากบริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ที่มาพร้อมกับสโลแกน “โลกลงทุนที่ทุกคนเท่ากัน” มีความหมายที่สื่อถึงการบริการแพลทฟอร์มเทรดหุ้นในลักษณะ Digital Brokerage ที่เปิดให้ผู้ใช้งานได้เทรดหุ้นฟรี แบบ “ไม่มีค่าคอมมิชชั่นแม้แต่บาทเดียว” ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือมือเก่า ไม่ว่ารายเล็กหรือรายใหญ่

ขณะที่ Liberator เป็นแพลทฟอร์มของ บริษัท หลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด บริษัทที่เปิดเมื่อปี 2565 ด้วยทุนจุดทะเบียน 1,000 ล้านบาท โดยได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์แบบ ก และใบอนุญาตธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบ ส-1 แล้วจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2022 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ (SET) และ และสมาชิกกองทุนคุ้มครองผู้ลงทุนในหลักทรัพย์ (SIPF) ด้วย

 

Liberator ดีกว่าแพลทฟอร์มอื่นอย่างไร?

หากพูดถึงการลงทุนในหุ้นแน่นอนว่าจะต้องหวัง “ผลกำไร” และผลกำไรเหล่านี้จะได้มากหรือน้อย นอกจากจะขึ้นอยู่กับความสามารถของนักลงทุนแล้วยังขึ้นอยู่กับ “ค่าคอมมิชชั่น” ที่มากน้อยแตกต่างกันไป ซึ่งค่าคอมมิชชั่นนั้น ”โบรกเกอร์” หรือ “แพลทฟอร์ม” ซื้อขายหุ้นก็จะคิดค่าธรรมเนียมกับนักลงทุนเป็นรายครั้ง และโดยส่วนใหญ่แล้วค่าธรรมเนียมสำหรับการตัดสินใจ “เทรดเอง” หรือส่งคำสั่งซื้อเองจะเริ่มต้นที่ราวล้านละ 800-1,500 บาท  และสำหรับการซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาดของแต่ละโบรกเกอร์นั้นก็จะคิดค่า คอมมิชชั่นที่สูงถึงล้านละ 2,500 บาทต่อครั้งเลยทีเดียว

ยิ่งกว่านั้น ผู้ให้บริการหรือโบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะคิดค่า คอมมิชชั่นที่ “ถูกลง” สำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่ใช้เงินลงทุนมากๆในหลักหลายล้านบาท แต่จะเก็บค่า คอมมิชชั่นกับนักลงทุนรายย่อยในอัตราที่ “แพงกว่า” ซึ่งสิ่งนี้เราจะเรียกว่าเป็น “ความไม่เท่าเทียม” ก็ว่าได้

Liberator มองเห็นถึง “ความไม่เท่าเทียม” นั้นจึงเปิดบริการแพลทฟอร์มเทรดหุ้นที่สร้างโอกาสให้นักลงทุนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันด้วยการคิดค่าคอมมิชชั่น 0%

โครงสร้างรายได้หลักของ Liberator ในปีแรกมาจาก ผลิตภัณฑ์การเงินที่เพิ่มขึ้นมา โดยการทำหน้าที่เป็น Custodian ช่วยดูแลทรัพย์สินให้กับลูกค้าของบริษัท เนสท์ติฟลาย จำกัดกับธุรกิจ P2P Lending ภายใต้ชื่อแอปพลิเคชั่น “StockLend” ที่ให้บริการธุรกรรมสินเชื่อระหว่างบุคคลกับบุคคลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์รายแรกในประเทศไทย และผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นมาในอนาคตไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อ Margin, Underwriting, กองทุน, เทรดหุ้นต่างประเทศ และอื่นๆ ในอนาคต

แม้ Liberator จะเป็นแพลทฟอร์มเทรดที่ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น แพลทฟอร์มแรกในไทย แต่ในต่างประเทศโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาก็มีแพลทฟอร์มลักษณะนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Fidelity, Webull, Vanguard, TD Ameritrade, Interactive Brokers หรือ Robinhood เป็นต้น และแน่นอนว่าการเกิดขึ้นของ Liberator ในประเทศไทยย่อมเป็นการ “เพิ่มทางเลือก” ในการลงทุนให้เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นในเวลานี้

 

สื่อสารผ่าน OOH สร้างปรากฏการณ์ทั่วเมือง

นอกจากแนวคิดทางธุรกิจของ Liberator ที่น่าสนใจแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือการใช้สื่อโฆษณาเพื่อสื่อสารไปให้ถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยสื่อโฆษณาแบบ Out of Home (OOH) แม้จะเป็นสื่อแบบ “คลาสสิค” ที่เราเห็นมาตลอดชีวิตแต่ก็ยังเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพและถูกเลือกใช้มากขึ้นในปัจจุบัน

เทรนด์ดังกล่าวสอดคล้องกับตัวเลขจากรายงานของ Nielsen ที่พบว่าสื่อ OOH ยังคงเป็นสื่อที่สร้างรายได้มากเป็นอันดับ 3 ในประเทศไทยรองจาก “สื่อทีวี” และ “อินเตอร์เน็ต” นอกจากนี้สื่อ OOH ยังเติบโตสวนกระแสคือโตถึง 56% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่รายได้จากสื่อทีวีนั้นลดลงอย่างต่อเนื่อง และสื่อ OOH ยังได้รับการคาดการณ์ว่าจะเติบโตต่อเนื่องไปเรื่อยๆในอีก 3 ปีข้างหน้า การเติบโตดังกล่าวเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า OOH สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพจนมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สื่อสารตรงถึงกลุ่มเป้าหมาย

นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ Liberator เลือกใช้กลยุทธ์การสื่อสารผ่าน OOH ด้วย Message ที่ง่ายและอ่านเข้าใจใน 3 วินาที ด้วยข้อความ Tagline อย่าง “Liberator เทรดหุ้นฟรีไม่มีค่าคอม” รวมถึง “Liberator โลกลงทุนที่ทุกคนเท่ากัน” อย่างที่เราเห็นได้จากบิลบอร์ดขนาดใหญ่บนทางด่วน, Digital Screen บนอาคารสูง, Lightbox บนท้องถนน, ป้ายโฆษณาบนรถขนส่งสาธารณะ รวมถึงป้ายโฆษณาในสนามบินหลายแห่ง

โดย Liberator เลือกจุดที่มีจำนวนรถโดยสารสูงและการจราจรหนาแน่นที่บางพื้นที่มียอดสถิติ Eyeball มากถึงหลักล้านครั้งต่อเดือน เรียกได้ว่าเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย สอดคล้องกับ Insight ของกลุ่มเป้าหมายที่ Liberator พบว่ากลุ่มคนเล่นหุ้นที่กว่า 80% จะใช้ชีวิตและเดินทางอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล และกลยุทธ์ใช้สื่อลักษณะนี้นับเรื่องกล้าหาญเนื่องจากเป็นการการพลิกตำราการสื่อสารการตลาดที่ไม่มีบริษัทหลักทรัพย์แห่งใดเคยทำมาก่อน

 

พรีเซ็นเตอร์ตัวแทนกลุ่มลูกค้า

อีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจก็คือการเลือกพรีเซ็นเตอร์ที่ไม่เพียงแต่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้เพียงอย่างเดียว แต่ยังสะท้อนตัวตนของลูกค้าในแต่ละกลุ่มด้วยไม่ว่าจะเป็น “มาดามเดียร์ – วทันยา บุนนาค” หญิงเก่งที่คร่ำหวอดในแวดวงสังคมและมีผลงานสนับสนุนเรื่องความเท่าเทียมและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับสังคม สอดคล้องกับแนวคิดของ Liberator ที่ต้องการสร้างความเท่าเทียมในกลุ่มลูกค้าในเรื่องค่าคอมมิชชั่น 0% ไม่ว่าจะรายเล็กหรือรายใหญ่

อีกหนึ่งตัวแทนของกลุ่มนักลงทุนทั่วไปที่แม้จะไม่ได้โดดเด่นเรื่องการลงทุนมากนักแต่จะต้องฉลาดคิดและฉลาดเลือกนั่นก็คือ “คุณกวาง อรการ จิวะเกียรติ” ผู้ประกาศข่าวที่ผู้คนได้เห็นผ่านหน้าจอโทรทัศน์ทุกๆวัน เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ที่สามารถสร้างภาพลักษณ์ด้านความน่าเชื่อถือส่งไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี รวมไปถึง “คุณเบิร์ท มานิตย์ ศรายุทธิกรณ์” ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จด้านการลงทุนในตลาดหุ้น เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะ Influencer ด้านการลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์อื่นๆ มีผู้ติดตามมากมายและมีภาพลักษณ์ที่ดีสามารถ represent ความเป็น Digital Brokerage ของ Liberator ได้เป็นอย่างดี

นั่นคือกลยุทธ์ในการสื่อสารทางการตลาดของ Liberator ผ่าน OOH ที่ยังทรงประสิทธิภาพ ในแบบที่ไม่มีบริษัทหลักทรัพย์ใดเคยทำมาก่อน และยังสร้าง “ปรากฏการณ์” ที่ดึงความสนใจจากนักลงทุนด้วย Tagline ที่เข้าใจง่ายใน 3 วินาที พร้อมกับพรีเซ็นเตอร์มาเป็นตัวแทนของลูกค้านักลงทุนได้แบบตรงใจ ไม่นับโมเดลธุรกิจที่แตกต่างและเข้าถึงใจของนักลงทุน ด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ก็เชื่อว่า Liberator จะสามารถเดินไปถึงเป้าหมายในการหาลูกค้าจากยอด Monthly Active User ในจำนวน 10% หรืออย่างต่ำ 50,000 รายภายในสิ้นปี 2023 ได้ไม่ยากนัก

 

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : marketingoops.com