Contact us on +668 4668 1993 or aspasign2020@gmail.com

“ทรีนีตี้” ส่องหุ้นกลุ่มที่รับผลกระทบเหตุการณ์การเมือง

“ทรีนีตี้” ส่องหุ้นกลุ่มที่รับผลกระทบเหตุการณ์การเมือง
October 23, 2020 dhammarong

บล.ทรีนีตี้ ประเมินเหตุการณ์ชุมนุมในครั้งนี้มีโอกาสยืดเยื้อสูง จากจุดยืนของทั้ง 2 ฝ่ายที่ยังคงแตกต่างกันเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งการชุมนุมในรูปแบบปัจจุบัน มักเป็นการจัดตั้งแบบกระจายตัวและไม่เป็นหลักแหล่ง (Coordinated) แถมเป็นการชุมนุมแบบไปแล้วกลับ ไม่มีค้างคืน จึงทำให้การควบคุมหรือการสลายการชุมนุมนั้น เต็มไปด้วยความยากลำบาก 

นอกจากนั้น ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ให้นายกฯลาออก ที่ดูเหมือนจะเป็นข้อที่ทำได้ง่ายที่สุด ก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับการตอบรับด้วยเช่นกัน ซึ่งจากการที่ฝ่ายวิจัยเคยกล่าวเอาไว้ว่า สิ่งที่นักลงทุนในตลาดหุ้นไทยมักไม่ชอบมากที่สุดนั่นก็คือ เหตุการณ์ทางการเมืองที่มีลักษณะยืดเยื้อและไม่สามารถคาดเดาจุดสิ้นสุดได้ จึงประเมินว่าภาพของดัชนีจะยังคงปรับตัวในลักษณะ Sideways ถึง Sideways down พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายในระดับต่ำต่อไป

 

ประเมินหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มขนส่งมวลชนและสื่อนอกบ้าน อาทิ BTS,BEM, VGI, PLANB จากการที่การชุมนุมรูปแบบปัจจุบัน ได้มีการเน้นการจัดตั้งไปตามแนวสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ ทำให้ต้องมีการปิดการให้บริการเป็นบางสถานีหรือทั้งระบบ เป็นการลดระดับปริมาณ Traffic ของผู้โดยสารลดลงอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ ประเมินหากสถานการณ์ชุมนุมยังคงลากยาวต่อไป จะกระทบต่อการให้บริการของผู้ประกอบการในกลุ่มนี้อย่างสำคัญ

 

ส่วนกลุ่มอื่นๆที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเชิงลบในด้าน Sentiment ได้แก่

 

1) กลุ่มห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะผู้ที่ให้บริการในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจต้องปิดการให้บริการก่อนกำหนดและลดการจัดงาน Event ต่างๆ เช่น CRC, CPN, MBK

          

2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จากเสถียรภาพภาครัฐที่เริ่มมีความไม่แน่นอน จนอาจส่งผลกระทบต่องานต่างๆรในอนาคตได้อาทิ CK, STEC, ITD, UNIQ

 

3) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม จากการที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติอาจเริ่มลดลงอีกครั้ง ได้แก่ AMATA WHA

          

ทั้งนี้ ไม่ได้เป็นกังวลต่อกลุ่มท่องเที่ยวจากกรณีนี้มากนัก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมาจากปัญหาโควิด-19 ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นผลกระทบที่รุนแรงมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ โดยสำหรับกลุ่มนี้ แนะนำให้ติดตามพัฒนาการของการ Lockdown ที่เริ่มมีมากขึ้นทั่วโลก ณ ขณะนี้มากกว่า

 

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : thunhoon.com