Contact us on +668 4668 1993 or aspasign2020@gmail.com

“คนทำสื่อ” ใจมาเป็นกอง งบโฆษณา Q3 เท่าปีก่อน

“คนทำสื่อ” ใจมาเป็นกอง งบโฆษณา Q3 เท่าปีก่อน
September 20, 2019 dhammarong

สมาคมมีเดียฯ เผยสามไตรมาสเม็ดเงินโฆษณาเท่ากับปีที่แล้ว หากไม่มีปัจจัยอื่นกระทบ สิ้นปีเม็ดเงินตามเป้าหมาย ชี้เอเยนซีนักการตลาดปรับแผนรับบทเรียนพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงได้ดี

นายไตรลุจน์ นวะมะรัตน นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงมูลค่าการใช้สื่อในช่วงที่ผ่านมาว่า ในไตรมาสสองทางสมาคมฯ คาดการณ์ว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 1% แต่ล่าสุดคาดว่าจะเท่ากับปีที่แล้ว (หรือ 0%) โดยการเติบโตหลักๆ มาจากสื่อออนไลน์ สื่อในโรงภาพยนตร์ สื่อในการเดินทาง และสื่อนอกบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคสื่อที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจโดยรวมยังชะลอตัว โดยคาดว่าสิ้นปีงบประมาณการใช้สื่อจะเป็นไปตามที่สมาคมมีเดียฯ เคยคาดการณ์ไว้ คือใช้งบประมาณเท่ากับปีที่ผ่านมา

นายรัฐกร สืบสุข อุปนายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย เสริมว่า ในสามไตรมาสที่ผ่านมาสื่ออินเทอร์เน็ตเติบโตสูงสุดถึง 18% รองลงไปคือสื่อในโรงภาพยนตร์ (Cinema) เพิ่มขึ้น 11% สื่อในการเดินทาง (Transit) เพิ่มขึ้น 5% สื่อนอกบ้าน (Outdoor) เพิ่มขึ้น 1% ตามลำดับ

สื่อในห้างสรรพสินค้า (In-store) ยังคงมีอัตราทรงตัวเท่าเดิม สื่อมีอัตราลดลงค่อนข้างมากคือ นิตยสาร ลดลง 25% หนังสือพิมพ์ลดลง 20% ตามด้วยสื่อวิทยุลดลง 5% ในขณะที่สื่อหลักคือโทรทัศน์ (รวมเคเบิลทีวีและโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม) ลดลงเล็กน้อยคือ 2%

“จากแนวโน้มของสามไตรมาสที่ผ่านมา สมาคมฯ คาดการณ์ว่าในไตรมาสสุดท้ายการใช้งบสื่อโฆษณาจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก คาดว่างบการสื่อโฆษณาทั้งปีจะคงที่ เท่ากับปีที่ผ่านมา”

นายไตรลุจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้งบสำหรับสื่อโฆษณาคงที่ เป็นสิ่งที่สมาคมด้านโฆษณาและการตลาดจำเป็นต้องวิเคราะห์สัดส่วนการใช้สื่ออย่างถี่ถ้วน เพื่อให้ทำการตลาดได้ตรงใจผู้บริโภคยิ่งขึ้น และนำไปสู่การเพิ่มยอดขาย สมาคมมีเดียฯ ได้นำเสนอข้อมูล ความเคลื่อนไหวในด้านการใช้งบสื่อโฆษณาที่สื่อดิจิทัลมีการเติบโตสวนทางกับสื่ออื่นๆ ซึ่งสอดคล้องไปกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนไปมาให้ทราบเป็นระยะอยู่แล้ว เอเยนซีและนักการตลาดต้องศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคและการใช้สื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคอย่างใกล้ชิดมากขึ้น

 

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : mgronline.com