Contact us on +668 4668 1993 or aspasign2020@gmail.com

VGI ตั้งเป้ารายได้งวดปี62/63(เม.ย.62-มี.ค.63) โต 20% แตะ 6 – 6.2 พันลบ. ระบุ BTS ขายบิ๊กล็อตไม่กระทบ

VGI ตั้งเป้ารายได้งวดปี62/63(เม.ย.62-มี.ค.63) โต 20% แตะ 6 – 6.2 พันลบ. ระบุ BTS ขายบิ๊กล็อตไม่กระทบ
July 1, 2019 dhammarong

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(19 มิถุนายน 2562)—— VGI ตั้งเป้ารายได้งวดปี62/63(เม.ย.62-มี.ค.63) โต 20% แตะ 6 – 6.2 พันลบ. – อัตรากำไรสุทธิ 20-25% ตามการเติบโตของธุรกิจสื่อนอกบ้าน วางงบลงทุน 700 ลบ. ติดตั้งจอระบบดิจิทัล-อัพเกรดซอฟแวร์ Rabbit แจง BTS ขายบิ๊กล็อต ไม่กระทบ มองช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินแถมดึงดูดนลท.ต่างชาติเข้าลงทุน

นางจิตเกษม หมู่มิ่ง ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการเงิน บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย หรือ VGI เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้รวมงวดปี2562/2563(เมษายน2562-มีนาคม 2563) เติบโต 20% หรือแตะที่ระดับ 6,000 – 6,200 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้จะมาจาก VGI จำนวน 3,400 ล้านบาท และจาก บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) MACO จำนวน 2,300 ล้านบาท รวมทั้งจากกลุ่มRabbit จำนวน 500 ล้านบาท พร้อมคาดกําไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจําหน่าย (EBITDA) จะเติบโต 40 – 45% และมีอัตรากําไรสุทธิอยู่ที่20 – 25% ตามการเติบโตของธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน ธุรกิจโลจิสติกส์ที่ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ หากแบ่งรายได้ จำนวน 6,000-6,200 ล้านบาท ตามสัดส่วน(segment)จะแบ่งเป็นมาจากป้ายโฆษณา 4,400 ล้านบาท จากป้ายดิจิทัล 1,800 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 70% ต่อ 30% โดยบริษัทฯได้เพิ่มสัดส่วนรายได้จากป้ายสื่อดิจิทัลขึ้นมาจากเดิมมีเพียงป้ายสื่อโฆษณาปกติเท่านั้น โดยเป็นไปตามกระแสของตลาดมากในยุคปัจบัน ซึ่งจะทำให้บริษัทฯมีสินค้าคงคลัง(inventory)สูงขึ้นเพราะสามารถรับลูกค้าได้มากขึ้น โดยบริษัทฯประมาณการยอดขายสูงขึ้นประมาณ 100 ล้านบาท จากการเปลี่ยนเป็นสื่อดิจิทัลนอกบ้าน

สำหรับงบลงทุน บริษัทฯวางไว้ที่ 700 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้ใน VGI จำนวน 450 ล้านบาท โดยบริษัทฯจะทำการเปลี่ยนป้ายโฆษณาเป็นระบบดิจิทัล รวมถึงติดตั้งจอในขบวนรถไฟ ส่วนจำนวน 50 ล้านบาทจะใช้ใน MACO เพื่อใช้ลงทุนอัพเกรดป้ายเดิมให้ดีขึ้น และที่เหลืออีกจำนวน 200 ล้านบาท เป็นงบลงทุนของกลุ่ม Rabbitบริษัทฯจะขยายฐานลูกค้ารวมถึงติดตั้งซอฟแวร์และอัพเกรดให้ดีขึ้น

ขณะที่ สื่อโฆษณาในรถไฟฟ้าในต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทฯได้งานในประเทศมาเลเซีย ซึ่งรถไฟฟ้าขบวนดังกล่าวคาดว่าจะเปิดใช้บริการภายในปีนี้ นอกจากนี้บริษัทฯยังอยู่ระหว่างประมูลงานทำโฆษณาในรถไฟฟ้าสายใหม่ที่ประเทศสิงคโปร์ด้วย เบื้องต้นบริษัทฯจะจับมือกับพาร์ทเนอร์ไทยในสิงคโปร์และพาร์ทเนอร์บริษัทท้องถิ่งของสิงคโปร์ในสัดส่วน 30% โดยคาดว่าจะรู้ผลการประมูลภายในสิ้นปีนี้

ด้านสื่อโฆษณาในสนามบินที่บริษัทฯได้ลงทุนผ่าน บริษัท แอโร มีเดีย กรุ๊ป จำกัด ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 30% ปัจจุบันมีแผนที่จะบุกทำสื่อโฆษณานอกบ้านประเทศในแถบ Asean Economics Community(AEC)มากขึ้น ซึ่งขณะนี้ แอโร มีเดีย ได้รับสัมปทานการทำสื่อโฆษณาในสนามบินที่เมียนมาเป็นระยะเวลา 9ปี รวมถึงล่าสุด แอโร มีเดีย พึ่งได้สัปทานล็อตใหม่ของสนามบินดอนเมืองเป็นระยะเวลา 10 ปี จากเดิมที่มีสัปทานอยู่แล้ว 10 ปี เช่นกัน

ส่วนธุรกิจโลจิสติกส์ที่บริษัทฯถือหุ้น 23% ของ Kerry Express (Thailand) นั้นการลงทุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง O2O Ecosystem ที่ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มธุรกิจของบริษัทฯทั้งการโฆษณา การชำระเงิน และโลจิสติกส์ โดยบริษัทฯได้เปิดตัว “ Smart Sampling” ผ่านเครือข่ายของ Kerry นอกเหนือไปจากการแจกของแบรนด์ยังสามารถทำกิจกรรมทางการตลาดแบบออฟไลน์และออนไลน์ได้หลายรายการพร้อมกันกับกลุ่มเป้าหมาย หลังจากเปิดตัวเป็นเวลา 8 เดือนบริษัทฯได้ส่งตัวอย่างมากกว่า 200,000 ชิ้น ให้กับแบรนด์อุปโภคบริโภคชั้นนำ นอกจากนี้บริษัทฯยังได้เปิดตัวสื่อใหม่บนรถบรรทุกของ Kerry จำนวน 300 คัน ที่วิ่งให้บริการทั่วกรุงเทพและปริมณฑล พร้อมกันนี้ Kerry Express (Thailand) ยังอยู่ระหว่างศึกษานำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ด้วยเช่นกัน หลังจากที่ Kerry hong kong ได้ประกาศว่าจะแยกตัวออกจากบริษัทแม่แล้ว

สำหรับกรณีที่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)BTSได้ มีจำหน่ายหุ้น VGI แบบบิ๊กล็อต จำนวน 575 ล้านหุ้น ในราคา 9 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าราว 5.1 พันล้านบาท เป็นการจำหน่ายให้นักลงทุนสถาบันซึ่งมีวัตุประสงค์ถือลงทุนระยะยาว บริษัทฯมองว่าเป็นผลบวกที่จะดึงดูดนักลงทุนชาวต่างชาติให้เข้ามาลงทุนด้วยเช่นกัน

อนึ่ง บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)BTS เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันนี้ BTS มีรายการจำหน่ายรายการใหญ่ (บิ๊กล็อต) หุ้น บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) VGI ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จำนวน 575 ล้านหุ้น ในราคา 9 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าราว 5.1 พันล้านบาท โดยเป็นการจำหน่ายให้นักลงทุนสถาบันซึ่งมีวัตุประสงค์ถือลงทุนระยะยาว

ทั้งนี้ BTS มีความตั้งใจที่จะจัดสรรทุนที่ได้รับจากการขายหุ้น VGI ครั้งนี้ไปใช้กับกับ Mega projects ต่างๆรวมถึงการประมูลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มการกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย (free float ) ให้มากขึ้น และคาดว่าจะได้รับโอกาสเข้าอยู่ใน SET50 Index Futures รวมถึง MSCI หรือ FTSE เพิ่มขึ้นด้วย

 

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : hooninside.com