Contact us on +668 4668 1993 or aspasign2020@gmail.com

สมาคมป้ายและโฆษณา จับมือ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยทำวิจัย “ภาษีป้าย”

สมาคมป้ายและโฆษณา จับมือ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยทำวิจัย “ภาษีป้าย”
June 6, 2018 dhammarong

เมื่อวันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีอาวุโสวิชาการและงานวิจัย และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ลงนามร่วมกับ คุณจักรกฤษณ์ เข็มทอง นายกสมาคมป้ายและโฆษณา ในการจัดทำวิจัยเพื่อศึกษาผลกระทบของการเพิ่มอัตราภาษีป้าย โดยมีคณะผู้บริหารสมาคมฯ และคณาจารย์ผู้จัดทำวิจัยฯ ร่วมเป็นสักขีพยาน

ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจในครั้งนี้ มีเป้าหมายและเจตจำนงเพื่อการบูรณาการความร่วมมือของการประเมินผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจจากการขึ้นภาษีป้ายโฆษณา เพื่อให้การประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมกลางแจ้งและสื่อนอกบ้านดำเนินไปด้วยความสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมและกำกับดูแลป้ายโฆษณา ซึ่งปัจจุบันมีอยู่หลายฉบับ และบางฉบับได้มีการปรับปรุง แก้ไข โดยมุ่งหวังให้กฎหมายมีความทันสมัย และสอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น พบว่ายังมีปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมและอีกหลายประการในปัจจุบัน ซึ่งปัญหาหลักประการหนึ่งคือ “การคิดอัตราภาษีป้าย” ที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง และไม่เป็นไปตามหลักการ “การจัดเก็บภาษีที่ดี” การปรับโครงสร้างการเรียกเก็บภาษีนั้น ก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้างต่อภาคอุตสาหกรรมโฆษณาทั่วทั้งประเทศ อาทิ ผู้ประกอบการป้ายเพื่อธุรกิจโฆษณา ผู้ประกอบการรายย่อย ร้านค้าหรือผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมถึงเจ้าของสินค้าและผลิตภัณฑ์และหรือผู้บริโภคที่ไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนของสินค้าและบริการที่เพิ่มสูงขึ้นได้ จึงหันไปใช้สื่อโฆษณาออนไลน์ อาทิ Google Facebook ที่ฐานภาษีครอบคลุมไปไม่ถึงเพิ่มมากขึ้น เกิดสภาวะเงินตราไหลออกนอกประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 90% ที่ควบคุมโดยบริษัทต่างชาติ ฉะนั้นจะเห็นได้ว่า “การเพิ่มอัตราภาษี” อย่างไม่เป็นธรรมนั้น ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในภาคอุตสาหกรรมโฆษณาอย่างมหาศาล เพื่อให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาทบทวนการปรับขึ้นอัตราภาษีอย่างเหมาะสมและครบถ้วนสมบูรณ์

คุณจักรกฤษณ์ เข็มทอง นายกสมาคมป้ายและโฆษณา ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ “สมาชิกผู้ประกอบการรายใหญ่” จำนวน 4 ราย ผู้ซึ่งถือได้ว่าได้กระทำการอันเป็นประโยชน์สูงสุดต่อภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อนอกบ้าน คือ ตกลงร่วมกันจัดทำวิจัยเพื่อศึกษาผลกระทบการเพิ่มอัตราภาษีป้าย อันประกอบด้วย บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) / บริษัท แพลนบี มีเดีย จำกัด (มหาชน) / บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) / บริษัท อควา แอด จำกัด (มหาชน) โดยมีเป้าประสงค์ ดังนี้

1. เพื่อใช้เป็นข้อมูลกรณีศึกษาเชิงวิชาการ และบรรทัดฐานหนึ่งในการนำเสนอต่อภาครัฐให้พิจารณาทบทวนการปรับขึ้นอัตราภาษีป้ายอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมต่อภาคประชาชน

2. เพื่อให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาทบทวนการปรับขึ้นอัตราภาษีอย่างเหมาะสมและครบถ้วนสมบูรณ์

3. เพื่อความร่วมมือ และความสมัครสมานสามัคคีของมวลสมาชิกผู้ประกอบการสื่อนอกบ้านที่จะช่วยสนับสนุนผลักดันให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์นี้ไปได้ด้วยดี

4. เพื่อยังประโยชน์สูงสุดให้การออกกฎหมาย สามารถบังคับใช้ต่อภาคธุรกิจและประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามนโยบายที่ภาครัฐกำหนด

การลงนามใน “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจัดทำวิจัยเพื่อศึกษาผลกระทบการเพิ่มอัตราภาษีป้าย” นี้ ถือว่าเป็นภารกิจสำคัญที่เราทุกฝ่ายต่างต้องร่วมด้วยช่วยกันในการกำกับดูแลธุรกิจสื่อนอกบ้านให้มีประสิทธิภาพและเกิดความยั้งยืนในธุรกิจสืบต่อไป

คุณจักรกฤษณ์  เข็มทอง นายกสมาคมป้ายและโฆษณา

ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีอาวุโสวิชาการและงานวิจัย