ทันหุ้น –VGI สร้าง“แพลตฟอร์มกลาง”เชื่อมโยงสื่อทุกประเภท จัดแพ็กเกจโฆษณานำเสนอผ่านสื่อหลากหลายหวังเจาะกลุ่มเป้าหมาย เผยฐานข้อมูลกว่า 3 ล้านคนทำให้ประเมินความต้องการลูกค้าได้ตรงจุด นักวิเคราะห์คาดรายได้โตตามธุรกิจโฆษณาที่ฟื้นตัว เคาะเป้าปี 2561 ที่ 7.60 บาท
นายกวิน กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท วี จี ไอโกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เปิดกลยุทธ์การดำเนินงานปี 2561 ว่า VGI จะผสานสื่อนอกบ้านทั้งออฟไลน์และออนไลน์ หรือ O to O โดยใช้บิ๊กดาต้าจากแรบบิทมาออกแบบแพ็กเกจโฆษณาที่เหมาะสมเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ด้วยการนำเสนอเป็น “บันเดิล แพ็คเกจ : Bundle Package” เพิ่มมูลค่าได้มากกว่าการนำเสนอพื้นที่โฆษณาปกติ
“เรามีฐานข้อมูล (ดาต้า) ที่ใหญ่มากจากแรบบิทการ์ด 8.5 ล้านคน ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนแล้ว 3 ล้านคน ทำให้เราสามารถวิเคราะห์และออกแบบการสื่อสารให้ลูกค้าใช้เงินได้อย่างคุ้มค่าและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เพราะเราจะรู้พฤติกรรมการเดินทาง ไลฟ์สไตล์การบริโภคสินค้า ราคาสินค้าที่ตัดสินใจซื้อ ฯลฯ ประกอบการทำแพ็กเกจ”นายกวิน กล่าว
เชื่อมโยงสื่อ-เจาะเป้าหมาย
นายกวิน กล่าวว่า ปี 2561 VGI จะสร้างแพลตฟอร์มสื่อเพื่อทำงานร่วมกับพันธมิตรสื่ออื่นๆ โดยนำเสนอแพ็คเกจบริหารการขายพื้นที่โฆษณาของสื่อต่างๆ ร่วมกัน โดย VGI จะทำหน้าที่เป็น “แพลตฟอร์มกลาง” ที่สามารถเชื่อมโยงสื่อในเครือกับพันธมิตรได้ทุกราย ด้วยการนำพื้นที่สื่อมาวางขายร่วมกัน เบื้องต้นคาดว่ายอดขายมาจากสื่อในครือวีจีไอ 50% และจากสื่อในกลุ่มพันธมิตร 50%
“เราไม่มีต้นทุนด้านแพลตฟอร์ม ขณะที่สื่อพันธมิตร จะนำพื้นที่โฆษณาซึ่งเดิมขายไม่ได้ เข้ามาฝากขายในแพลตฟอร์ม เพื่อจัดแพ็คเกจการขายร่วมกับสื่ออื่นๆ นำเสนอเป็นแพ็กเกจให้กับผู้ประกอบการ สินค้า ฯลฯ ที่สนใจ เพราะเรามั่นใจว่ากลยุทธ์ของเราจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ได้อย่างเฉพาะเจาะจง หากขายได้ VGO จะได้คอมมิชชั่นตามที่ตกลงกัน”
ครอบคลุมทั่วประเทศ
ปัจจุบัน VGI กรุ๊ป ประกอบด้วย 5 บริษัท คือ วีจีไอ, บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO, บริษัท แอโร มีเดีย กรุ๊ป, บริษัท เดโม เพาว์เวอร์, และบริษัท บัตรแรบบิท จำกัด ส่งผลให้ VGI กรุ๊ปมีเครือข่ายสื่อนอกบ้านครบวงจรทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
โดย “VGI” เป็นผู้พัฒนาป้ายโฆษณาและจอดิจิทัลทั้งหมดของระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสกว่า 6,000 จุด สื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน – สื่อในลิฟท์คอนโดมิเนียมกว่า 350 อาคาร ขณะที่ MACO เป็นเจ้าของป้ายโฆษณาและจอดิจิทัล 77 จังหวัด กว่า 2,000 จุด ส่วน “เดโม เพาว์เวอร์”ดำเนินธุรกิจด้านกิจกรรมการตลาด แจกสินค้าตัวอย่างและสาธิตการใช้สินค้าเพื่อส่งเสริมการขายในพื้นที่ค้าปลีก เช่น เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี และแม็คโคร โดยมีพื้นที่กว่า 360 แห่งทั่วประเทศ
ด้าน “แอโร มีเดีย” เป็นผู้รับสัมปทานบริหารสื่อโฆษณาในสนามบิน 13 แห่งทั่วประเทศ มีจอดิจิทัลกว่า 300 จอ รวมถึงสื่ออื่นๆ เช่น รถเข็นในสนามบินดอนเมือง รถกอล์ฟที่สนามบินสุวรรณภูมิ งวงช้าง 5 สนามบินทั่วประเทศและสื่อโฆษณาของสายการบินแอร์เอเชีย ไทยไลอ้อนแอร์ และนกแอร์มากกว่า 70 ลำ
กลุ่ม “แรบบิท การ์ด” ระบบชำระเงินอีเล็กทรอนิกส์ เป็นระบบตั๋วร่วมระหว่างรถไฟฟ้าบีทีเอสและระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ นอกจากนี้ยังเป็นพันธมิตรกับร้านค้ากว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศที่รับชำระเงินผ่านบัตรแรบบิท ปัจจุบันมีผู้ถือบัตร 8.5 ล้านใบ โดยมีผู้ลงทะเบียน 3 ล้านใบ ถือเป็นฐานข้อมูล (Data Base) ที่สำคัญในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อวางแผนโฆษณาให้สินค้า และแบรนด์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายอย่างคุ้มค่างบประมาณที่สุด
คาดรายได้โต
บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” VGI จาก 3 เหตุผลคือ 1) สื่อโฆษณานอกบ้านยังมีโอกาสเติบโตจากพฤติกรรมผู้บริโภคอยู่นอกบ้านมากขึ้น และ VGI ยังมีโอกาสโตจากสัดส่วนรายได้โฆษณาสื่อนอกบ้านที่ยังต่ำและอัตราค่าโฆษณายังถูกเมื่อเทียบกับสื่อดั้งเดิมอย่างธุรกิจทีวี
2) ขยายธุรกิจเข้าซื้อกิจการสื่อนอกบ้านหลากหลายครอบคลุมพื้นที่สื่อเพิ่มขึ้น และ 3) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/60 ยังดีต่อเนื่อง จากภาวะอุตสาหกรรมโฆษณาที่ฟื้นตัว ประกอบกับ VGI รวมธุรกิจเป็นแพลตฟอร์มที่หลากหลาย เพิ่มกำลังการผลิตสื่อโฆษณา ช่วยสร้างการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 7.60 บาท อ้างอิงวิธี DCF (WACC 8.2%, Terminal growth 2%) โดยฐานะการเงินของบริษัทแข็งแกร่งคาด Net D/E ปี 2018F อยู่ที่ 0.7X และคาด ROE อยู่ที่ 46% คาด Dividend Yield ที่ 1.4%
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : thunhoon.com
