หากเดินเข้าไปในสวนสาธารณะกลางกรุงอย่าง ‘สวนลุมพินี’ นอกจากเราจะได้สัมผัสกับแสงแดดอุ่นลอดผ่านพุ่มไม้ ได้ยินเสียงนกร้องเจื้อยแจ้วแล้ว ยังจะได้เห็นผู้คนหลากหลายวัยที่เข้ามาจับจองพื้นที่ใต้ร่มไม้ นั่งเล่น พูดคุย พักผ่อนทั้งกายและหัวใจไปพร้อมกัน
นี่ไม่ใช่แค่การทำกิจกรรมกลางแจ้ง แต่คือภารกิจในการสร้าง ‘พื้นที่ชีวิต’ ในแคมเปญ ‘Here for All of You’ จาก Central Park ที่เปลี่ยนสวนลุมพินีที่นับเป็นเพื่อนบ้านสีเขียวของศูนย์การค้าให้กลายเป็นพื้นที่กิจกรรมสร้างสรรค์ของคนเมือง !
เพราะ Central Park รู้ดีว่า ‘ชีวิตในเมือง’ นั้นประกอบขึ้นจากคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกความเชื่อ และทุกความฝัน พื้นที่ชีวิตที่ดีจึงควรออกแบบมาเพื่อทุกคน บนพื้นที่ของศูนย์การค้าที่เชื่อมต่อกับสวนลุมพินีด้วย Rooftop Park ขนาดใหญ่กว่า 7 ไร่ ราวกับเป็น ‘ผืนป่าเดียวกัน’ นับเป็นส่วนขยายของ Park Life ที่ผสานเข้ากับ Urban Life ได้อย่างไร้รอยต่อ
แคมเปญ Here for All of You จึงสะท้อนแนวคิดนี้ผ่าน 4 กิจกรรมไฮไลต์ของแคมเปญ ไม่ว่าจะเป็น ‘Sound Healing’ กิจกรรมเสียงบำบัด ชวนหลับตาลงแล้วหลีกหนีจากเสียงจอแจสุดวุ่นวาย เพื่อกลับมาโฟกัสกับตัวของตัวเองได้อีกครั้ง และ ‘Art in the Park’ กิจกรรมเพนต์กระถางต้นไม้ร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนได้ใช้จินตนาการ และได้ทำกิจกรรมกับคนรอบข้าง
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม ‘Conversation Chair’ มุมพิเศษทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ได้แรงบันดาลใจมาจากป้ายโฆษณา ตรงกลางมีชุดโต๊ะเก้าอี้ที่ถอดไอเดียมาจากม้าหินลายตารางหมากรุกในสวนสาธารณะที่คนไทยคุ้นเคย กลายเป็น ‘Live Billboard’ พื้นที่บันทึกชีวิตผู้คนผ่านบทสนทนาที่ครอบคลุมเรื่อง Sustainability / Equality / Mental Health / Quality of Life เช่น คุณรักอะไรในกรุงเทพ, ความเท่าเทียมสำหรับคุณคืออะไร, คุณหัวเราะดัง ๆ ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ?
ปิดท้ายด้วยการส่งต่อพื้นที่เขียวออกไปไกลยิ่งกว่าเดิมผ่านกิจกรรม ‘Make Bangkok Greener’ แจกต้นไม้ 2,000 ต้น ทั้งพันธุ์ไม้กินได้ เช่น มะเขือเทศ พริก กะเพรา และพันธุ์ไม้ฟอกอากาศอย่างพลูด่าง เฟิร์นบอสตัน เดหลี เพื่อให้ต้นไม้ของเมืองไม่ได้อยู่แค่ในสวนสาธารณะ แต่เติบโตในทุกบ้าน ทุกระเบียง ทุกชุมชนอย่างแท้จริง
วิเคราะห์สั้น ๆ ในมุมมอง AD ADDICT
แอดมองว่าแคมเปญนี้ใช้กลยุทธ์ Curated Experience มาออกแบบประสบการณ์ที่คัดสรรเพื่อคนเมืองได้อย่างตอบโจทย์ จากการจัดกิจกรรมที่เน้นการปฏิสัมพันธ์ สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกัน ทำให้คนสัมผัสได้ว่าสวนลุมพินีไม่ใช่แค่สวนสาธารณะ แต่เป็นคอมมูนิตี้ของคนเมืองที่มี Central Park คอยอยู่เคียงข้าง
ในมุมของการสื่อสาร ก็จับจุดร่วมระหว่างศูนย์การค้าและสวนลุมพินีเรื่องความหลากหลายของผู้คนและวิถีชีวิตไร้รอยต่อมาผสานกันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่สะดวกสบาย หรือการเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมของคนทุกเพศทุกวัย จนสามารถสร้างคุณค่าให้ Central Park กลายเป็นจุดหมายของคนกรุงได้นั่นเองคร้าบ
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : adaddictth.com